เมนู

ฉะนั้น. บทว่า อตฺตสรณา ความว่า เธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นคติ อย่า
มีคนอื่นเป็นคติเลย. แม้ในบทมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ก็นัยนี้
นั่นแล. ก็โลกุตรธรรม 9 อย่าง พึงทราบว่า ธรรมในบทนี้. บทว่า
ตมตคฺเคเม เต ตัดบทเป็น ตมอคฺเค ต อักษร ในท่ามกลางท่านกล่าว
ด้วยสามารถการเชื่อมบท. มีอธิบายว่า ภิกษุเหล่านี้ ชื่อว่า ตมตัคคา เพราะ
อรรถว่า มีความมืดเป็นเลิศ. พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงถือเทศนาด้วยธรรม
อันเป็นยอด คือพระอรหัตว่า ดูก่อนอานนท์ ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นของเรา
ตัดกระแสแห่งความมืดได้ทั้งหมดอย่างนี้แล้ว จักเป็นผู้เลิศ คือส่วนสงสุด
เกินเปรียบ คือจักเป็นผู้เลิศกว่าพวกภิกษุเหล่านั้น. ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่ง
เป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา และภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด มีสติปัฏฐาน 4 เป็นอารมณ์
จักเป็นผู้เลิศ ดังนี้.
จบอรรถกถาคิลานสูตรที่ 9

10. ภิกขุนีสูตร



ผู้มีจิตตั้งมั่นในสติปัฏฐาน 4 ย่อมรู้คุณวิเศษ


[714] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น เวลาเช้า ท่านพระอานนท์นุ่งแล้ว
ถือบาตรและจีวรเข้าไปยังสำนักของนางภิกษุณีแห่งหนึ่ง แล้วนั่งบนอาสนะ
ที่เขาปูลาดไว้. ครั้งนั้น ภิกษุณีมากรูปเข้าไปหาท่านพระอานนท์ ไหว้ท่าน
พระอานนท์แล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้ว จึงพูดกะท่าน
พระอานนท์ว่า ข้าแต่พระอานนท์ผู้เจริญ ภิกษุณีมีมากรูปในธรรมวินัยนี้